มาเข้าใจการทำงานของ SANGFOR One-Stop Ransomware Solution

Ransomware

SANGFOR One-Stop Ransomware Solution

มาเข้าใจการทำงานของ Ransomware แบบง่ายๆ และวิธีการป้องกันพร้อมวีดีโอจำลองการทำงานด้วยโซลูชัน Ransomware Protection แบบครบวงจรจาก Sangfor

CSR : มอบอุปกรณ์ Network & Security ให้กับ “วัดนาป่าพง”

CSR IT Green

CSR : บริษัท ไอที กรีน จำกัด (มหาชน)

เนื่องด้วยปัจจุบันนี้ ระบบ Network & Security ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อทุกภาคส่วน รวมถึงในส่วนของพุทธศาสนาด้วยเช่นกัน บริษัท ไอที กรีน จำกัด (มหาชน) จึงได้เล็งเห็นถึงระบบ Network & Security ในภาคส่วนของพุทธศาสนา เพื่อสนับสนุนการเผยแพร่พุทธวจนและบำรุงสงฆ์

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2563 บริษัท ไอที กรีน จำกัด (มหาชน) มอบอุปกรณ์ Network & Security ให้กับ “วัดนาป่าพง” พร้อมทั้งติดตั้ง รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 290,000 บาท

CSR วัดนาป่าพง

โรงพยาบาลแห่งอนาคต จากมุมมองของผู้บริหารแห่ง Alcatel-Lucent Enterprise

โรงพยาบาลแห่งอนาคต จากมุมมองของผู้บริหารแห่ง Alcatel-Lucent Enterprise

กลับมาอีกครั้งกับการสัมภาษณ์เรื่องราวของการทำ Digital Transformation กับคุณสาธิต พันธ์ไพศาล ผู้ดำรงตำแหน่ง Country Manager แห่ง Alcatel-Lucent Enterprise Thailand โดยในครั้งนี้เราจะเจาะลึกในเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงในโรงพยาบาล จากการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่แก่ผู้ป่วยและการรักษาพยาบาล 

โครงสร้างระบบเครือข่ายที่มั่นคงปลอดภัย คือก้าวแรกที่สำคัญของทุกๆ โรงพยาบาล

คุณสาธิตได้เริ่มต้นเปิดบทสนทนานี้ด้วยเรื่องราวที่ถ่ายทอดมาจากประสบการณ์ของตนเอง จากการเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการของหลายๆ โรงพยาบาลที่มีความต้องการจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ซึ่งแทบทุกโรงพยาบาลนั้นจะต้องเจอกับโจทย์เดียวกันคือ “การจัดระเบียบระบบเครือข่าย”

เดิมทีนั้นระบบเครือข่ายในโรงพยาบาลถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเชื่อมต่อไปยังระบบ Application สำคัญทางการแพทย์เป็นหลัก และจึงมีระบบเครือข่ายไร้สายสำหรับรองรับอุปกรณ์ทางการแพทย์บางส่วน ในขณะที่ส่วนใหญ่นั้นคือการเปิดให้แพทย์, พยาบาล, เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยได้เชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อใช้งาน Internet ควบคู่กันไป

แต่ปัจจุบันระบบเครือข่ายที่ออกแบบเอาไว้เดิมนั้นไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว ด้วยแนวโน้มของอุปกรณ์การแพทย์ทั้งหมดที่จะผันตัวไปสู่การเป็น Internet of Things หรือ IoT กันมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้ความมั่นคงปลอดภัยของระบบเครือข่ายและการจัดการอุปกรณ์การแพทย์เหล่านี้ผ่านระบบเครือข่ายกลายเป็นเรื่องสำคัญมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในขณะที่การให้บริการผู้ใช้งานเพื่อเชื่อมต่อ Internet เองนั้น ก็ต้องประเมินถึง Workload รูปแบบใหม่ๆ อย่างเช่น Chat หรือ Video Streaming เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

การเข้าถึงข้อมูลในระบบ Application สำคัญของโรงพยาบาลเองก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่การทำงานกับกระดาษในการเดินตรวจวอร์ดแล้วค่อยนำข้อมูลมาบันทึกลงในระบบ Application นั้น ก็จะถูกเปลี่ยนไปเป็นการเข้าถึงข้อมูลผ่าน Tablet กันมากขึ้น ซึ่งตรงนี้เองที่ระบบเครือข่ายไร้สายจะเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก

การออกแบบระบบเครือข่ายให้มีความทนทานเองก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การใช้งาน Power-over-Ethernet หรือ PoE สำหรับเหล่าอุปกรณ์ IoT กำลังได้รับความนิยมนี้ ก็ยิ่งทำให้การออกแบบระบบไฟฟ้าและพลังงานเพื่อรองรับต่อระบบเครือข่ายยิ่งทวีความสำคัญขึ้นไปอีก

คุณสาธิตเองยังได้เน้นย้ำถึงความสามารถของเทคโนโลยีระบบเครือข่ายของ Alcatel-Lucent Enterprise ทั้งในส่วนของ LAN, Wireless LAN, Network Management และ Security ว่าถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานในระดับ Mission Critical อย่างโรงพยาบาลได้อยู่แล้ว อีกทั้งยังง่ายต่อการใช้งานและมั่นใจได้ในความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วโลกเองก็ได้เลือกใช้ Alcatel-Lucent Enterprise อยู่แล้ว

การสื่อสารระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยจะต้องคำนึงถึงประเด็นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น จากกฎหมายใหม่ๆ ที่ประกาศบังคับใช้ในไทย

อีก Workload หนึ่งที่คุณสาธิตเห็นว่าน่าจับตามองนั้นก็คือระบบ Chat ที่ปัจจุบันหลายๆ โรงพยาบาลยังคงใช้บริการสาธารณะในการพูดคุย แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ทุกๆ โรงพยาบาลคงจะต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบ Chat ภายในของโรงพยาบาลเอง เพื่อให้มั่นใจได้ในการควบคุมด้านการเข้าถึงข้อมูล Chat ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย ให้ตอบรับต่อข้อกฎหมายที่จะบังคับใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของประชาชนชาวไทย

คุณสาธิตได้อธิบายเพิ่มเติมว่า บริการ Chat สาธารณะถึงแม้จะมีการเข้ารหัสข้อมูลอยู่แล้ว แต่หากคิดถึง Workflow โดยรวมทั้งหมด ทางโรงพยาบาลไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าจริงๆ แล้วข้อมูลเหล่านั้นจะถูกเข้าถึงโดยใครบ้าง รวมถึงหากบุคลากรคนนั้นๆ ลาออกหรือย้ายโรงพยาบาลไป การที่เข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้อยู่จะสร้างปัญหาตามมาภายหลังให้กับโรงพยาบาลหรือไม่

Credit: Alcatel-Lucent Enterprise

ในมุมของ Alcatel-Lucent Enterprise เองนั้น มีบริการที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้คือ Rainbow for Healthcare ซึ่งเป็นระบบ Cloud Collaboration ที่รองรับทั้ง Chat, Voice, Video ในหนึ่งเดียว และเปิดให้โรงพยาบาลสามารถควบคุมสิทธิ์การใช้งานและการเข้าถึงข้อมูลได้ทั้งหมด รวมถึงยังสามารถเปิดให้บุคคลภายนอกอย่างเช่นผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยเข้ามามีส่วนร่วมภายในระบบได้ สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการสื่อสารทางด้านการแพทย์ได้และยังคงมีความมั่นคงปลอดภัยซึ่งตรวจสอบได้ตามที่ข้อกฎหมายต้องการ

อีกหนึ่งความสามารถที่น่าสนใจของ Rainbow ก็คือการที่มี API เปิดให้เชื่อมต่อใช้งานร่วมกับระบบอื่นๆ รวมถึงยังเชื่อมต่อกับ API ของระบบอื่นๆ ได้ ทำให้ Rainbow นั้นทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนหรือรับส่งข้อมูลได้หลากหลาย และเป็นหัวใจสำคัญของการทำ Digital Transformation ด้านการสื่อสารของโรงพยาบาลได้เลยในอนาคต

IoT จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาพยาบาลแห่งอนาคต

กลับมาต่อกับประเด็นที่คุณสาธิตเล่าค้างเอาไว้ก่อนหน้านี้ คือเรื่องของการที่อุปกรณ์ทางการแพทย์นั้นจะมีความเป็น IoT มากขึ้น ซึ่งคุณสาธิตเองก็ให้ความเห็นเอาไว้ว่า สุดท้ายแล้วจำนวนของอุปกรณ์เหล่านี้จะมีหลากหลายและมีจำนวนมหาศาลมากในโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ซึ่งการจัดการด้านระบบเครือข่ายให้มีความมั่นคงปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้ก็ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น

แนวทางหนึ่งที่คุณสาธิตนำเสนอก็คือการทำ Network Segmentation สำหรับอุปกรณ์ IoT โดยเฉพาะ ซึ่งการทำ Segmentation นี้จะต้องมีความละเอียดที่สูงมาก คุณสาธิตแนะนำว่าแนวทางที่โรงพยาบาลในต่างประเทศนิยมใช้ ก็คือการสร้างระบบเครือข่าย 1 VLAN ต่ออุปกรณ์ IoT 1 ประเภทเท่านั้น และจำกัดสิทธิ์ในการเชื่อมต่อเครือข่ายของแต่ละอุปกรณ์ให้มีความชัดเจน กำหนดแนวทางในการบริหารจัดการให้ชัดเจน เพื่อลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์เหล่านี้จะถูกโจมตีจากภายนอกหรือภายในโรงพยาบาลเองให้น้อยที่สุด

แน่นอนว่าการดำเนินตามแนวทางเหล่านี้ถือว่ามีความซับซ้อนไม่น้อย แต่นี่ก็คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากต้องการความมั่นใจในความมั่นคงปลอดภัย และการเลือกใช้เทคโนโลยี Software-Defined Networking (SDN) หรือ Network Automation นั้นก็ถือว่าสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นการเลือกระบบ Network Management ที่สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดีก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ดูแลระบบ IT ต้องให้ความสำคัญ

Smart Hospital = Smart Building + Smart Home สร้างประสบการณ์ใหม่ในการรักษาพยาบาลด้วยข้อมูล

ก้าวถัดมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุปกรณ์การแพทย์นั้น ก็คือการ Transform โรงพยาบาลอย่างเต็มรูปแบบ เปลี่ยนประสบการณ์การรักษาพยาบาลให้เป็น Digital มากขึ้น ด้วยการผสานนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ร่วมกับการออกแบบประสบการณ์ใหม่ๆ

Smart Hospital หรือโรงพยาบาลอัจฉริยะนั้นคือแนวคิดที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยแนวคิดนั้นก็คือการผสานนำ Smart Building เข้ามาปรับให้การใช้พลังงานของโรงพยาบาลมีประสิทธิภาพและความคุ้มค่ามากขึ้น รวมถึงการควบคุมด้านความปลอดภัยภายในอาคารมีความทันสมัยมากขึ้น และผสานนำ Smart Home เข้ามาเสริมประสบการณ์ห้องพักของผู้ป่วยให้ผู้ป่วยสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ สื่อสารได้ง่าย และได้รับประสบการณ์ดีๆ ในการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

นอกจากอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ที่จะติดตั้งใช้งานภายในพื้นที่ของโรงพยาบาลแล้ว เทคโนโลยี Location-based เองก็ถือว่าสำคัญไม่น้อย เพราะการติดตามตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาล, ผู้ป่วยใน และอุปกรณ์การแพทย์ให้ได้อย่างทันท่วงทีนั้นจะช่วยให้การรับมือกับกรณีฉุกเฉินที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้น และการรักษาพยาบาลผู้ป่วยบางประเภทสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ซึ่งทาง Alcatel-Lucent Enterprise เองก็มีโซลูชัน OmniAccess Stellar Location-based Service สำหรับตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะอยู่

วางรากฐานด้านการสร้างและจัดเก็บข้อมูลให้ดี เตรียมเปิดรับเทคโนโลยี AI ในอนาคตอันใกล้

ในระยะยาวแล้วอีกประเด็นหนึ่งที่ทุกๆ โรงพยาบาลต้องเริ่มคำนึงถึงนั้นก็คือประเด็นด้านข้อมูล โดยการวางกลยุทธ์ว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาต่อยอดในแง่มุมใดเพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลมีความสอดคล้องนั้นคือสิ่งที่หลายๆ โรงพยาบาลต้องเริ่มคิดแล้ว และแนวทางเหล่านี้ยังต้องไม่ขัดกับกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลด้วย

วางรากฐานด้านการสร้างและจัดเก็บข้อมูลให้ดี เตรียมเปิดรับเทคโนโลยี AI ในอนาคตอันใกล้

Credit: Alcatel-Lucent Enterprise

คุณสาธิตได้ปิดท้ายบทสนทนาในครั้งนี้ด้วยการแนะนำ Whitepaper จาก Alcatel-Lucent Enterprise ที่ได้รวมเอาแนวคิดด้านโรงพยาบาลแห่งอนาคตหรือ Hospital of the Future เอาไว้ที่ https://www.al-enterprise.com/en/gated-assets/hospital-of-future ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถโหลดไปศึกษาได้ฟรีๆ โดยภายในเอกสารฉบับนี้ที่มีความยาวกว่า 25 จะมีกรณีศึกษาหลายสิบรายการ สำหรับภาพของโรงพยาบาลที่ผสานนำเทคโนโลยีเข้าไปใช้งาน

IT Green Configuration Aruba InstantOn vs instant noodle ใครจะเสร็จก่อนกัน

aruba-instanton-challenge

IT Green Configuration Aruba InstantOn vs instant noodle ใครจะเสร็จก่อนกัน

#arubainstantonchallenge
วันนี้ทาง IT Green Public Company Limited ทำการ Configuration Aruba InstantOn เริ่มต้นตั้งแต่ Register account ให้เห็นถึงความง่ายโดย เทียบกับการต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 นาที อันไหนจะเสร็จก่อนกันโดยวันนี้เราให้ Sales เป็นคน Config และให้ Engineer ต้มบะหมี่

ITG HPE Aruba Team Contact Product Manager : Somkiat Udompornpisit
Email:somkiatu@itgreen.co.th
Tel: 094-540-1388

บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เลือกใช้ Sangfor HCI เพื่อต่อยอดนวัตกรรมด้าน IT ภายในโรงงานอุตสาหกรรม

[Guest Post] Case Study : บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เลือกใช้ Sangfor HCI เพื่อต่อยอดนวัตกรรมด้าน IT ภายในโรงงานอุตสาหกรรม

บทสัมภาษณ์และประสบการณ์ในการใช้งาน

การบริหาร IT เน้นการทำงานในเชิงรุก

เมื่อกล่าวถึงระบบ IT ในโรงงานอุตสาหกรรม คุณธงชัย มั่นจิตร (MIS Manager) ผู้จัดการแผนกเทคโนโลยีและสารสนเทศ ของ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ในการบริหารจัดการระบบ IT ให้มีความมั่นคงและความต่อเนื่องในธุรกิจ

ต้องการปรับปรุงระบบให้ดีขึ้น เมื่อมองเห็นความเสี่ยง และทำอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากระบบควบคุมคลังสินค้าและระบบการผลิต เป็นหัวใจหลักของธุรกิจในการผลิต จัดเก็บและจัดจำหน่าย รวมถึงระบบ Back Office เป็นระบบสนับบสนุนการทำงานที่หยุดไม่ได้ ซึ่งเดิมอุปกรณ์ Server มีการใช้งานมานานกว่า 8 ปี อุปกรณ์เริ่มมีการชำรุด หมดสภาพการใช้งาน และเสี่ยงต่อการหยุดชะงัก จึงต้องการปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบสูง จึงเปลี่ยนแนวคิด

ระบบเดิมยึดติดกับ Hardware ที่เก่าและมีสภาพชำรุด ทำให้ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการบำรุงรักษาและแก้ไขระบบ จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ทางทีมงานจึงมองหานวัตกรรมและเทคโนโลยี Virtualization และ Cloud มาใช้เพื่อทำให้ระบบมีความมั่นคงต่อเนื่อง ถึงแม้ Hardware เสีย หรือเกิดปัญหา Error ก็สามารถกู้ระบบกลับคืนได้ในระยะเวลาที่ต้องการ

ทำไมถึงเลือกใช้ HCI

เมื่อมองถึงความเหมาะสม และปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบ ทางอิชิตัน มองหา Solution มาทดแทนระบบเดิม ซึ่งมีหลายๆแบรนด์เข้ามาเป็นตัวเลือกในการทดสอบการใช้งาน (PoC) ทางอิชิตันได้ขอทดสอบผลิตภัณฑ์ Sangfor เป็นเวลา 1 ปี ทำให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการทดสอบระบบอย่างชัดเจน จึงทำให้มั่นใจใน Solution และการให้บริการ ประกอบกับขั้นตอนในการทดสอบในระบบสำคัญๆขึ้นมาใช้งาน ทำได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่มีปัญหาในการใช้งาน และมีการบริหารจัดการที่ง่ายด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องมี Software อื่นเข้ามาเสริม ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ Solution ที่ทำงานได้เหมือนกัน

ผลลัพธ์หลังการใช้งานกว่า 2 ปี

การบริหารจัดการระบบ IT มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการจัดการแบบรวมศูนย์ จากเดิมที่ต้องใช้อุปกรณ์ Server มากถึง 20-30 เครื่อง ปัจจุบันเหลือเพียง 3 เครื่อง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลง 70-90% สอดคล้องกับนโยบายองค์กร (Green Factory) จากเดิมที่ต้องใช้ตู้ Rack ทั้งหมด 5 ตู้ ปัจจุบันเหลือเพียง 2 ตู้ ในขณะเดียวกัน ถึงแม้จะใช้งานอุปกรณ์จำนวนน้อยลง แต่ประสิทธิภาพในใช้งานดีขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่มากกว่า (Use Less, Get A lot ใช้น้อย ได้มาก)

จากการใช้งานและทดสอบอย่างหนักกว่า 2 ปี ระบบสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้องค์กรสามารถทำตามแผน Business Continuity ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งปัจจุบันองค์กรยังเลือกใช้งานในรูปแบบของศูนย์ข้อมูลสำรอง (Disaster Recovery Site) เพื่อให้ระบบสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

สนใจนำเทคโนโลยี HCI ไปใช้ในองค์กร สามารถติดต่อได้ที่

คุณ รัตสกานต์ ศรีสวัสดิ์ เบอร์โทรศัพท์ 089-7800584

หรือกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้ทางทีมงานติดต่อกลับ https://forms.gle/zph8L4qNHv7kMWhP8

เกี่ยวกับ Sangfor Technologies

ผู้ให้บริการโซลูชัน IT แบบครบวงจร (Total Solution) ด้วยเทคโนโลยี Cloud Computing (HCI), Next Generation Firewall, Internet Access Management, SD-WAN และ Virtual Desktop Infrastructure สำหรับองค์กรภาคธุรกิจ ให้บริการในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านทรัพยากร IT ในปัจจุบัน https://www.sangfor.com/

 


 

ดูข่าวต้นฉบับ >

Alcatel Lucent ร่วมกับ IT Green จัด Bootcamp

ITgreen bootcamp alcatel lucent

Alcatel Lucent ร่วมกับ IT Green จัด Bootcamp

วันที่ 16-18 มกราคม 2563 ที่จังหวัดนครนายก
โดยยกทีม Engineer ทั้งทีมเดินทางไปร่วมกันเรียนรู้ ต่อยอด พัฒนา อีกทั้งเพิ่มศักยภาพให้ทีมมีความแข็งแกร่ง เป็นผู้นำในตลาดยิ่งขึ้น โดยอัดแน่นด้วยเนื้อหา มีการทำ Lab ทำ Solution ต่างๆ ที่หลากหลายและท้าทาย เพื่อให้สามารถนำไปใช้และให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าของบริษัทฯ

IT Green ขอสวัสดีปีใหม่ 2020

Happy New Year 2020

IT Green ขอสวัสดีปีใหม่ 2020 คู่ค้าและพันธมิตรทุกๆ ท่านค่ะ
ปีนี้เราจะยังคงเดินไปด้วยกัน อย่างก้าวหน้าและมั่นคง ร่วมกันสร้างไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้นะคะ

พร้อมกันนี้ ขอขอบพระคุณที่ให้การสนับสนุน และเป็นพันธมิตรที่ดีกับ IT Green เสมอมาค่ะ

Coffee Talk with Panduit by IT Green ครั้งที่ #2

Coffee Talk with Panduit by IT Green ครั้งที่ #2

coffeetalk-panduit-01

อีกงานดีๆ อย่าง Coffee Talk with Panduit by IT Green ครั้งที่ #2
มีพาร์ทเนอร์ให้ความสนใจเข้าร่วมไม่น้อยค่ะ ในงานพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด พร้อมได้รับข้อมูลผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงโปรโมชั่นดีๆ จากเราแบบจุใจ

เปิดตัว OpenLab Innovation Center

เปิดตัว OpenLab Innovation Center

โดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท ไอที กรีน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ไอ-สกายเน็ตวัน จำกัด ซึ่งประกอบไปด้วยหลากหลาย Solutions ทั้ง AI, IoT Hardware และ Software platform เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562