CSR วัดนาป่าพง

CSR วัดนาป่าพง

IT Green CSR : วัดนาป่าพง

CSR วัดนาป่าพง

บริษัท ไอที กรีน จำกัด (มหาชน) มอบอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ทั้ง Firewall และระบบ Network ให้กับวัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานี
เพื่อทำการถ่ายทอดสดการเผยแผ่คำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า “พุทธวจน”
โดยติดตั้งเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 รวมมูลค่ากว่า 7 แสนบาท

Aruba Atmosphere Digital 2021 ค้นหาทุกเรื่องราวของเทคโนโลยี ‘Edge’ และ ‘Cloud’

Aruba Atmosphere Digital 2021 ค้นหาทุกเรื่องราวของเทคโนโลยี 'Edge' และ 'Cloud'

องค์กรที่กำลังสนใจเรื่อง Edge และ Cloud วันนี้เรามี Event ที่คุณสามารถเข้าร่วมรับฟังความรู้มาแนะนำ กับงานกับงาน ATMD หรือ Atmosphere ที่จะให้องค์กรได้อัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ ในเรื่องของ Cloudจัดขึ้นโดย Aruba ผู้ให้บริการโซลูชั่นระบบเครือข่ายชั้นนำของโลก ภายใต้บริษัท ฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรซ์ (ประเทศไทย) จำกัดและพิเศษสุดๆสำหรับงานปีนี้ Aruba ใจดีแจกของรางวัลมากมาย เพียงแค่ลงทะเบียนภายในวันที่ 27 เมษายน และเข้าร่วมงาน ATMD’21 อย่างน้อย 1 session
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานในรูปแบบ Online โดยลงทะเบียนที่ https://bit.ly/2PTPb6g
รายละเอียดงานเพิ่มเติม ฟังจากคลิปนี้กันเลยค่ะ

ที่มา : TECHSAUCE

5 เหตุผล ทำไมองค์กรจำเป็นต้องมี EDR

5 เหตุผล ทำไมองค์กรจำเป็นต้องมี EDR

Endpoint Detection and Response (EDR) ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเสริมความสามารถด้านการตรวจจับ การเก็บหลักฐาน และการตอบสนองต่อภัยคุกคามไซเบอร์ให้แก่ระบบ Endpoint Security อย่างไรก็ตาม หลายองค์กรยังคงขาดความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดเรื่อง EDR และการนำไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่เพิ่มภาระแก่ผู้ดูแลระบบเดิม

Sophos ให้บริการ EDR โดยการผสานรวมกับ Intercept X ซึ่งเป็นโซลูชัน Endpoint and Server Protection ชั้นนำระดับโลกเข้าด้วยกันเป็นโซลูชันเดียว เรียกว่า Intercept X with EDR ช่วยให้องค์กรสามารถตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยที่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์ปลายทางได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

บทความนี้จะมาบรรยายถึง 5 เหตุผล ทำไม Sophos EDR จึงเป็นโซลูชันที่จำเป็นต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของอุปกรณ์ปลายทางในยุคดิจิทัล ดังนี้

1. รักษา IT Security Operations ให้มีประสิทธิภาพที่ดีตลอดเวลา และตามล่าภัยคุกคามที่แอบซ่อนอยู่ในองค์กร

EDR ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานทั้งด้าน IT Operations และ IT Security ดังนี้

  • IT Operations: Sophos EDR ช่วยรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้อยู่ในสถานะพร้อมใช้งานและมั่นคงปลอดภัยตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาอุปกรณ์ที่มีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพ (เช่น เหลือพื้นที่เก็บข้อมูลน้อยหรือใช้หน่วยความจำสูงเกินไป) การระบุอุปกรณ์ที่มีช่องโหว่ที่ต้องทำการแพตช์ หรือการตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ที่เปิด RDP ทิ้งไว้โดยไม่จำเป็น ทั้งยังช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถรีโมตเข้าไปแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้สะดวกรวดเร็วอีกด้วย
  • IT Security: EDR สามารถตามล่าภัยคุกคามที่หลุดรอดระบบ Endpoint Protection เข้ามาผ่านทางการติดตาม Indicator of Compromise (IoC) เช่น การตรวจจับความพยายามเชื่อมต่อเข้ายังมาพอร์ตอื่นๆ ที่ไม่ใช่พอร์ตมาตรฐาน, โปรเซสที่ทำการแก้ไขไฟล์หรือ Registry Keys, โปรเซสที่ปลอมแปลงตัวเองเป็นอย่างอื่น หรือผู้ใช้ที่คลิกลิงก์บนอีเมล Phishing จากนั้นรีโมตเข้าไปยังอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม จัดทำ Forensics และจัดการกับโปรเซสที่ต้องสงสัยได้ทันที

2. ตรวจจับการโจมตีที่หลุดลอดเข้ามาโดยไม่รู้ตัว

ไม่มีโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยใดที่สามารถป้องกันภัยคุกคามได้ 100% EDR จึงเป็นแนวป้องกันอีกชั้นที่ทำหน้าที่ค้นหา ตรวจจับ และตอบสนองต่อภัยคุกคามที่หลุดรอดผ่านแนวป้องกันแรก เช่น Firewall, IPS, Sandbox เข้ามาได้ องค์กรสามารถใช้ EDR ในการตรวจจับการโจมตีผ่านทางการค้นหา Indicator of Compromise (IoC) ซึ่งได้จากการอัปเดตข้อมูลผ่าน Threat Intelligence

Sophos EDR รวบรวม IoC ของภัยคุกคามล่าสุดที่ค้นพบจากทั่วทุกมุมโลก แล้วนำไปวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี Machine Learning ของ SophosLabs เพื่อจัดอันดับความสำคัญ ซึ่งช่วยให้นักวิเคราะห์สามารถรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาต้องเริ่มตรวจสอบและโฟกัสกับเรื่องใดก่อน เร่งกระบวนการตอบสนองและจัดการกับภัยคุกคามให้เร็วยิ่งขึ้น

3. ตอบสนองต่อเหตุผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

หลังตรวจพบเหตุผิดปกติ การจัดการกับเหตุเหล่านั้นให้เร็วที่สุดเพื่อกักกันความเสียหายเป็นเรื่องพื้นฐานในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยขององค์กร ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วต้องใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมงในการจัดการกับเหตุผิดปกติแต่ละครั้ง Sophos EDR สามารถร่นเวลาที่เสียไปได้ด้วยการช่วยผู้ดูแลระบบแยกคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่มีปัญหาออกจากเครือข่ายได้ทันที ควบคุมความเสียหายไม่ให้แพร่กระจายออกไป และเป็นการซื้อเวลาขณะเริ่มทำการตรวจสอบเหตุการณ์และตัดสินใจดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อ นอกจากนี้ยังนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและสิ่งที่ควรทำทีละขั้นๆ พร้อมข้อมูลประกอบที่เข้าใจง่าย ช่วยให้แม้แต่ผู้ดูแลระบบที่ไม่มีทักษะสูงนักก็สามารถจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

จุดเด่นสำคัญอีกประการของ Sophos EDR คือความสามารถในการเข้าถึงอุปกรณ์ปลายทางแบบรีโมตผ่านทาง Command Line ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตอบสนองต่อเหตุผิดปกติได้อย่างรวดเร็วแม้ผู้ใช้จะไม่ได้อยู่ในออฟฟิศ ทั้งยังสามารถติดตั้งเครื่องมือ Forensics เพื่อตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น ถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ สั่งจัดการโปรเซสหรือรีบูตอุปกรณ์ได้อีกด้วย

4. เพิ่มศักยภาพให้แก่การรักษาความมั่นคงปลอดภัยโดยไม่ต้องเพิ่มคนหรือเรียนรู้ทักษะใหม่

จากการสำรวจของ Sophos พบว่า เหตุผลสำคัญอันดับหนึ่งที่องค์กรไม่ใช้ EDR คือ การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายและมูลค่าที่จะได้รับ ด้วยเหตุนี้ Sophos จึงออกแบบโซลูชัน EDR โดยผสานเทคโนโลยี Machine Learning เข้าด้วยกันกับ Threat Intelligence ของ SophosLabs เพื่อทดแทนความเชี่ยวชาญที่ได้จากบุคลากรที่มีทักษะ เช่น นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงปลอดภัย นักวิเคราะห์มัลแวร์ หรือนักวิเคราะห์ข้อมูลภัยคุกคาม ช่วยให้องค์กรสามารถเริ่มใช้งาน EDR ได้โดยไม่ต้องเพิ่มคนหรือเรียนรู้ทักษะใหม่

สำหรับองค์กรที่ต้องการผู้ช่วยบริหารจัดการ EDR ทาง Sophos มีบริการ Managed Threat Response (MTR) สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ Threat Hunting & Detection, การตรวจสอบเหตุผิดปกติเชิงลึก และการตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เกิดขึ้นกับองค์กร

5. เข้าใจการโจมตีที่เกิดขึ้นและยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

การรับมือภัยคุกคามโดยทั่วไปนั้น จะใช้วิธีค้นหาและลบไฟล์ไม่พึงประสงค์ (ไฟล์มัลแวร์) ทิ้งไป ซึ่งวิธีนี้เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุหรือแก้ปัญหาชั่วคราว เนื่องจากเรายังไม่ทราบวิธีที่แฮ็กเกอร์ใช้บุกรุกเข้ามายังระบบขององค์กร และสิ่งที่พวกนั้นกระทำก่อนที่การโจมตีจะถูกหยุดไป แฮ็กเกอร์อาจโจมตีซ้ำ ณ​ จุดเดิม หรือบางรายอาจสร้าง Backdoor ทิ้งไว้เป็นช่องทางให้กลับมาโจมตีได้อีก

Sophos EDR มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Threat Cases ซึ่งสามารถแสดงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีที่ตรวจพบ ช่วยให้ผู้ดูแลระบบเข้าใจได้ง่ายว่า ไฟล์ โปรเซส และ Registry Key ไหนที่ได้รับผลกระทบจากมัลแวร์บ้าง ทั้งยังสามารถแสดงผลเป็นแผนภาพการโจมตี ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ไปจนถึงจุดที่การโจมตีจบ (หรือถูกหยุด) เหล่านี้ ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถค้นหาต้นตอของปัญหาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมหาวิธีการปิดช่องโหว่ไม่ให้ถูกโจมตีซ้ำได้อีก

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.sophos.com/en-us/products/endpoint-antivirus.aspx

สำหรับผู้ที่สนใจ Sophos Intercept X with EDR และโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยอื่นๆ จาก Sophos ติดต่อ

IT Green Co., Ltd.
23/87-89 Soi Soonvijai., Rama 9 Rd., Bangkapi, Huay-Kwang, Bangkok 10320
Email: sale@itgreen.co.th

ที่มา : TechTalk THAI

What’s coming in 2021?

What's coming in 2021?

Jan 1, 2021 — Feb 12 marks the beginning of the Year of the Metal Ox. The second animal of the Chinese zodiac, the ox denotes the hard work, positivity and honesty.

Every Chinese zodiac year is defined by one of the five elements. The upcoming 2021 will be the year of the Metal Ox, and its message couldn’t be clearer: Success will come to those who work hard. Really hard. “It’s hard work, duty, discipline,”

As we now know, the world did go through a distinct changing of the times, but not in the way anyone had hoped. Political turmoil, social unrest, economic decline, and a once in 100-years global pandemic severely altered our lives. While 2020 may seem like it was an epic disaster, the year of the Rat did present us with a new opportunity: to change the world for the better. Let’s all hope so!

Digifort is working on fundamental changes in the structure. This will pave the way for a more centralized platform and meet the challenging demands of managing more and more objects within security systems.

As we move the architecture forward, we will develop more innovative and functional features which are already mapped out in the next new versions.

Our development team is also working very hard on many other big stuffs, like LPR zones, multi-tenancy, and, most importantly, cloud architecture.

We are currently working on creating the structure for any edge analytic we support. This will make Digifort even more open for any new analytics, using Edge Analytics or Server Edge Analytics, so we can take full advantage of the AI evolution happening right now.

We will revolutionalize the way we do our forensic search because the way we save the metadata information is very smart. The object can have properties, and properties could be searched if the analytics engine provided it.

For example, if we have analytics that gives us the type and colour of objects, like “blue car.” We could search for that.

Metadata recording already exists, hence once this search engine is developed, we could search using filters like:
  • For facial recognition
    • Name of the person
    • Classifications (Gender)
  • Classifications for IPX
  • VCA
    • Speed

So we could create custom filters, like all objects over 55km/h.

More use of video analytics

Today, companies are working aggressively to develop advanced algorithms that are often used by customers across the globe. Within the security market, the acceptance of video analytics and an awareness of its importance is catching up. The latest research points to edge computing and AI as the top technologies that will significantly impact the market.

With the evolution of the IP Camera and more intelligent software, video analytics has become more powerful and more promising.

Cloud Solution
A growing number of providers now offer some form of a cloud-managed video solution. The connection to the cloud enables cloud storage, cloud analytics and cloud sharing of the video. This provides customers with great choice and, more importantly, from a sales standpoint, means lucrative recurring revenue and lock in a customer. However, there are some risks and limitations to this solution. Particularly when hosting on the cloud, it still has significant barriers such as upstream bandwidth. Recent improvements have increased significantly over the past decade, the increase is not enough for some sites with limited bandwidth, especially relative to the number of cameras (resolutions and frame rate) an organization might have or require.

It is not a perfect solution for every project. However, we do see significant interest and discussion than even 12 months ago.

Increased use of facial recognition for public safety
Facial recognition, in particular, warrants a more in-depth discussion because of its increased scrutiny interms of privacy concerns. In general facial recognition systems are deployed in different parts of the verticals, such as airports, metro railways and for border security.

More importance to cybersecurity
There is a global awareness of the importance of cybersecurity in CCTV systems now. Governments are announcing cybersecurity as a critical factor. This brings surveillance systems under scrutiny. Any cybersecurity policy the government plans would apply to CCTV devices too.

Higher emphasis on training
Security training is an area some has not yet given much importance to. We believe that there will be a lot of up-skilling of the workforce and training methodology changes. Security guards or the security operations in terms of manpower team has to be well trained.

In 2020, protection again COVID-19 was a responsibility that was suddenly thrust on security guards, with minimum training. In 2021, training for security guards will include measures to protect against COVID-19 or any other disease that may become a concern in the future.

Conclusion: regulations and pandemic to drive change
To sum up, Security and CCTV market would see more regulations in the coming year, especially related to Covid-19 and cybersecurity. Customers would continue to explore more hardware and software as awareness of their benefits rises. Finally, safety would become an integral part of the security professional’s profile, emphasizing training to manage COVID-19 concerns.  

ที่มา : Digifort Global

HPE Aruba เปิดบ้านจัดงาน “Open House Partner Exclusive By HPE Thailand and ITGreen”

HPE Aruba เปิดบ้านจัดงาน "Open House Partner Exclusive By HPE Thailand and ITGreen"

จัดขึ้นสำหรับลูกค้าคนพิเศษ ลูกค้าคนสำคัญของ IT Green @ ตึกสามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา

HPE-Aruba ร่วมกับ IT Green จัดงาน “Aruba Instant On 1930 Switch Series and Live Demo”

Aruba Instant On 1930 Switch Series and Live Demo Event

HPE-Aruba ร่วมกับ IT Green

จัดงาน “Aruba Instant On 1930 Switch Series and Live Demo”

Aruba Instant On 1930 Switch Series and Live Demo Event

ที่เกษรพลาซ่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา
โดยมี Partners ที่น่ารักมาร่วมกิจกรรมและเล่นเกมส์ในงาน

Sophos แต่งตั้ง IT Green เป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

Sophos แต่งตั้ง IT Green เป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

Sophos ผู้ให้บริการโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แบบ Next-generation จากสหราชอาณาจักร ประกาศแต่งตั้ง IT Green เป็นผู้จัดจำหน่าย (Distributor) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

พร้อมช่วยองค์กรทุกระดับพลิกโฉมระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น Network, Endpoint, Data, Identity และ Firewall Protection สู่ยุคใหม่ ให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัท ไอทีกรีน จำกัด (มหาชน) หรือ IT Green เดิมชื่อ บริษัท ไอที ดิสทริบิวชั่น จำกัด (ITDC) ก่อตั้งในปี 1997 เพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ IT โดยเริ่มจากเป็นผู้จัดหน่ายซอฟต์แวร์ Windows ของ Microsoft แล้วได้ขยายธุรกิจไปจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับ Enterprise IT ที่เป็นที่นิยมของตลาดในระดับโลก พร้อมทั้งพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายจนมี Partners และ Resellers กระจายอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 1,500 ราย

IT Green ก้าวสู่การเป็น Value-added Distributor เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่โซลูชัน IT ของตนและขั้นตอนการจัดจำหน่าย โดยเน้นการสนับสนุนทั้งก่อนและหลังการขายเพื่อให้เหล่า Partners สามารถส่งมอบโซลูชันให้แก่ลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพ เช่น การให้ข้อมูลด้านเทคนิคและข้อมูลเฉพาะของสินค้า, การร่วมมือกับ Partners ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์, การให้คำปรึกษาและช่วยเหลือในการออกแบบโซลูชันให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า, การสนับสนุนด้านอุปกรณ์และบุคลากรในการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ (Proof of Concept: PoC), การอบรบเชิงเทคนิคสำหรับทั้ง Partners และลูกค้า, การซัพพอร์ตหลังการขาย ตลอดจนการส่งอุปกรณ์กลับเพื่อทำการซ่อมบำรุงและการมีอุปกรณ์สำรองสำหรับใช้งานทดแทนอุปกรณ์ดังกล่าว เป็นต้น

“ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญสำหรับ Sophos ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ IT Green รวมไปถึงระบบ Partner Ecosystem อันแสนยอดเยี่ยม ทำให้เรามั่นใจว่าการร่วมมือกับ IT Green นี้จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แบบ Next-generation ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของไทย Sophos และ IT Green ขอให้คำมั่นว่าจะช่วยสนับสนุนเหล่าพาร์ทเนอร์ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ลูกค้า ผ่านทางโซลูชันชั้นนำระดับโลกซึ่งสนับสนุนโดยทีมซัพพอร์ตด้านเทคนิคที่แข็งแกร่ง เพื่อต่อกรกับภัยคุกคามไซเบอร์มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องในขณะนี้” — Sumit Bansal, Managing Director, ASEAN, Sophos กล่าว

Sumit Bansal, Managing Director, ASEAN, Sophos

การจับมือกับ Sophos เพื่อให้บริการโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยแบบ Next-generation นี้ ช่วยเติมเต็มตลาดที่เคยเป็นช่องว่างของ IT Green ทำให้ IT Green สามารถนำเสนอและส่งมอบโซลูชันให้แก่ Partners และลูกค้าได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ที่สำคัญคือ Sophos ให้บริการโซลูชันในรูปของระบบ Cloud ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของตลาดที่กำลังปรับตัวจากการใช้งานอุปกรณ์ไปเป็นโซลูชันบน Cloud มากขึ้นอีกด้วย การเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Sophos นี้ ทำให้ IT Green พร้อมให้บริการโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยแก่องค์กรทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีทรัพยากรบุคคลจำกัด

“Sophos เป็นพาร์ทเนอร์ด้านความมั่นคงปลอดภัยชั้นเลิศที่เข้ามาเติมเต็มบริการที่ IT Green นำเสนอเหล่าพาร์ทเนอร์ โซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แบบ Next-generation ของ Sophos ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ Firewall หรือโซลูชัน Endpoint ตอบโจทย์การใช้งานขององค์กรทุกระดับ ตั้งแต่ธุรกิจขนาดย่อมไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่นำเสนอโอกาสใหม่จาก Sophos นี้ให้แก่เหล่าพาร์ทเนอร์ของ IT Green เพื่อขยายธรุกิจด้านความมั่นคงปลอดภัยสู่ตลาด” — คุณอดิศร สิงห์ฤาเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอที กรีน จำกัด (มหาชน) กล่าว

Sophos แต่งตั้ง IT Green

คุณอดิศร สิงห์ฤาเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอที กรีน จำกัด (มหาชน)

เกี่ยวกับ Sophos

Sophos เป็นผู้ให้บริการด้านความมั่นคงปลอดยภัยไซเบอร์แบบ Next-generation จากสหราชอาณาจักร นำเสนอโซลูชันชั้นนำสำหรับป้องกันอุปกรณ์ปลายทาง (คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์พกพา) และระบบเครือข่ายจากภัยคุกคามไซเบอร์สมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นมัลแวร์ การโจมตีช่องโหว่ การจารกรรมข้อมูล การเจาะระบบ ฟิชชิ่ง แรนซัมแวร์ และอื่นๆ สนับสนุนโดย SophosLabs ทีม Data Science และ Threat Intelligence ระดับโลก ลูกค้าสามารถบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ของ Sophos ทั้ง Endpoint, Network, Web, Email, Encryption และ Mobile ได้จากศูนย์กลางผ่านทาง Sophos Central ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบนระบบ Cloud โดยโซลูชันทั้งหมดของ Sophos จะผสานการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการภายใต้แนวคิด “Synchronized Security” ซึ่งช่วยให้ตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและอัตโนมัติ

ในฐานะผู้ให้บริการด้านความมั่นคงปลอดยภัยไซเบอร์แบบ Next-generation Sophos ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสูงอย่าง Cloud, Machine Learning, APIs, Automation, Managed Threat Response และอื่นๆ เข้ามาประยุกต์ใช้กับโซลูชันของตนเพื่อส่งมอบการป้องกันระดับ Enterprise ให้แก่องค์กรทุกระดับ

ปัจจุบันนี้ Sophos มีพาร์ทเนอร์และ Managed Service Providers (MSPs) มากกว่า 53,000 ราย ให้บริการโซลูชันสำหรับรักษาความมั่นคงปลอดภัยแก่ลูกค้ามากกว่า 400,000 องค์กรใน 150 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังได้นำนวัตกรรมต่างๆ กระจายสู่ผู้ใช้ตามบ้านผ่านทาง Sophos Home

sophos